ตลาดตอง9 ขายสินค้าออนไลน์ ลงโฆษณาฟรี
รับติดแบนเนอร์ราคาถูก
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ข่าว: SMF - Just Installed!
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ตลาดตอง9 ขายสินค้าออนไลน์ ลงโฆษณาฟรี
»
ตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์ โฆษณาสินค้าฟรี
»
โปรโมทเว็บ โปรโมทสินค้า อื่นๆ
(ผู้ดูแล:
admin
) »
เปิด ‘5บลจ.’เติบโตสูงสุดใน ‘วิกฤติโควิด’รอบ1ปีครึ่ง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
หน้า: [
1
]
ผู้เขียน
หัวข้อ: เปิด ‘5บลจ.’เติบโตสูงสุดใน ‘วิกฤติโควิด’รอบ1ปีครึ่ง (อ่าน 212 ครั้ง)
Cindy700
Hero Member
กระทู้: 15998
บันทึกการเข้า
เปิด ‘5บลจ.’เติบโตสูงสุดใน ‘วิกฤติโควิด’รอบ1ปีครึ่ง
«
เมื่อ:
สิงหาคม 22, 2021, 11:00:28 am »
จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ต่อเนื่องยาวนานมาร่วม 1 ปีครึ่ง โดยการระบาดในช่วงแรก มีผลกระทบต่อ
อุตสาหกรรมกองทุนรวม
ไทยอย่างมาก โดย มีเงินไหลออกจาก "กองทุนรวมตราสารหนี้" สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากตลาดตราสารหนี้ทั่วโลกประสบกับภาวะสภาพคล่องที่ไม่ปกติ จนทำมาสู่มีการไถ่ถอนหน่วยลงทุนรายวันเป็นมูลค่าสูง เป็นเหตุให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ออกมาตรการดูแล ทำให้หยุดการแพนิกของนักลงทุนและตลาดค่อยๆฟื้นตัวหลังจากนั้น โดยใช้เวลาราว1ปีครึ่งกลับมาฟื้นตัวจากโควิด-19ได้
บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) รายงานว่า ณ ไตรมาส1 ปี2563 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุนรวมไทย (เฉพาะกองทุนเปิด ไม่รวมกองทุนปิด, ETF, REIT, Infrastructure fund)อยู่ที่ 3.6 ล้านล้านบาท ลดลง17.1% จากสิ้นปี 2562 โดยมีเงินไหลออกสุทธิ 3.9 แสนล้านบาท โดยเงินไหลออกจากกองทุนรวมตราสารหนี้ถึง 4.5 แสนล้านบาท
โดยในช่วงตลอดปี 2563 อุตสาหกรรมกองทุนรวมไทยค่อยๆ เริ่มฟื้นตัวกลับมา การหดตัวของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเริ่มชะลอตังลง จากเงินลงทุนไหลเข้าสู่กองทุนตลาดเงินและตราสารทุนในไตรมาส2ปี2563 และในช่วงครึ่งปีหลัง2563 การลงทุนเปลี่ยนโหมด เป็นเงินลงทุนไหลเข้ากองทุนตราสารทุนแทน ส่วนใหญ่เป็นกองทุนที่ไปลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศมากขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม ภาพอุตสาหกรรมกองทุนรวมไทยที่นักลงทุนแพนิกเทขายกองทุนตราสารหนี้ช่วงต้นปีนั้น ยังทำให้ ณ สิ้นปี2563 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุนรวมไทย แม้ในช่วงไตรมาส4ปี2563 ปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า เพิ่มขึ้น 5.8% ไปอยู่ที่ 4.0 ล้านล้านบาท แต่ทั้งปี2563 ยังลดลด 7.3% จากสิ้นปี2562 โดยมีเงินไหลออกสุทธิทั้งปีรวมทั้งสิ้น 2.8 แสนล้านบาท
หลังจากนั้นในปี2564 อุตสาหกรรมกองทุนรวมไทยเริ่มฟื้นตัวจากโควิด-19 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุนรวมไทย อยู่ที่ 4.1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% จากสิ้นปี2563 และสูงกว่ามี.ค. ราว 15% แต่ยังต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ที่เคยอยู่ระดับสูงสุดช่วงธ.ค. 2562 ที่เกือบ 4.3 ล้านล้านบาทโดยในไตรมาสแรกปีนี้มีเงินไหลเข้าสุทธิ 3.3 หมื่นล้านบาท เน้นไปที่เงินไหลเข้าสุทธิกองทุนรวมตราสารทุน
จนกระทั้งครึ่งปีแรก 2564 จึงฟื้นตัวจากโควิด-19 ได้ มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 4.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.7%จากไตรมาสแรกปีนี้ หรือ 5.4% จากสิ้นปี2563 จากการเพิ่มขึ้นนี้ทำให้มูลค่าทรัพย์สินเข้าใกล้ระดับก่อนการระบาดของโควิด-19 ที่ 4.3 ล้านล้านบาท หรือต่างกันราว 1 แสนล้านบาท โดยในรอบครี่งปีแรกมีเงินไหลเข้าสุทธิรวม 9.3 หมื่นล้านบาท
ขณะที่แนวโน้มครึ่งปีหลัง2564 อุตสาหกรรมกองทุนรวมไทย ยังมีเทรนด์การเติบโตที่ดี ทั้งจากอานิสงกส์ ลดคุ้มครองเงินฝากเหลือ1ล้านบาท ทำให้มีเงินฝากไหลเข้ามาทะลักมาสู่กองทุนตราสารหนี้
และบลจ.ต่างๆยังคงแนะนำนักลงทุนไทย กระจายเงินลงทุนไปทั่วโลก เพื่อเพิ่มผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาดหุ้นไทย อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในปีนี้ที่ภาวะการลงทุนมีความผันผวนมาก ทั้งสถานการณ์โควิด-19ที่รุนแรงขึ้นและยาวนานขึ้น เฟดมีสัญญาณลดคิวอีภายในปีนี้ รวมถึงการเมืองในประเทศกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง ซึ่งยังเป็นเทรนด์การลงทุนต่อเนื่องในปีนี้
ลองมาดูกันว่า การเติบโตของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ในช่วงวิกฤติโควิดรอบ1ปีครึ่งที่ผ่านมานี้ บลจ.ที่มีการเติบโตสูงสุด5อันดับ ดังนี้
1.บลจ.กสิกรไทย มูลค่าทรัพย์สิน 1.06 ล้านล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาด 25.2%
2.บลจ.ไทยพาณิชย์ มูลค่าทรัพย์สิน 6.9 แสนล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาด16.4%
3.บลจ.บัวหลวง มูลค่าทรัพย์สิน 5.8 แสนล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาด 13.7%
4.บลจ.กรุงไทย มูลค่าทรัพย์สิน 4.1 แสนล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาด 9.8%
5.บลจ.กรุงศรี มูลค่าทรัพย์สิน 4 แสนล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาด 9.4%
"ชญานี จึงมานนท์" นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในภาพรวมอุตสาหกรรมกองทุนรวมไทยมีบลจ.กสิกรไทย เป็นผู้นำด้วยมูลค่าทรัพย์สินสูงสุด 1.06 ล้านล้านบาท หรือสัดส่วน 1 ใน 4 ของทั้งอุตสาหกรรม และเป็นเพียงบลจ.แห่งเดียวที่มีมูลค่าทรัพย์สินมากกว่า 1 ล้านล้านบาท การเติบโตนั้นมีส่วนมาจากทั้งกองทุนตราสารหนี้และกองทุนหุ้นต่างประเทศ กองทุนที่มีเงินไหลเข้ามากที่สุดในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมาคือกองทุน K SF Plus รวมเกือบ 4 หมื่นล้านบาท
"บลจ.ไทยพาณิชย์"ที่มีส่วนแบ่งตลาดอันดับสองราว 16.4% จากมูลค่าทรัพย์สิน 6.9 แสนล้านบาท หรือมูลค่าทรัพย์สินลดลงจากช่วงก่อนโควิด 11.5% โดยมีส่วนมาจากมูลค่ากองทุน term fund และกองทุนผสมที่ลดลงอย่างมากหรือรวมกันมากกว่า 1 แสนล้านบาท กองทุนที่มีเงินไหลเข้ามากที่สุดในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมาคือSCB Short Term Fixed Income Plus A ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท
"บลจ.บัวหลวง"ยังคงมีมูลค่าทรัพย์สินสูงสุดเป็นอันดับสามด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 5.8 แสนล้านบาท หรือเท่ากับสัดส่วน 13.7% ซึ่งถือว่าค่อนข้างทรงตัวจากปี 2562 โดยกองทุนบัวหลวงมีมูลค่าทรัพย์สินขนาดใหญ่อยู่ในกลุ่มหุ้นไทยที่เป็นกองทุน LTF แม้ว่าเงินลงทุนในส่วนนี้จะค่อย ๆ ลดลง แต่การขายกองทุนต่างประเทศในกลุ่ม Global Equity, China Equity หรือ Global Technology หรือกองทุนตราสารตลาดเงิน ก็ยังช่วยให้มีกระแสเงินไหลเข้าสุทธิ รวมเป็นมากกว่า 4 หมื่นล้านบาทตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา กองทุนที่มีเงินไหลเข้ามากที่สุดในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา (ไม่รวมกองทุน term fund) คือ Bualuang Treasury 1.5 หมื่นล้านบาท
"บลจ.กรุงไทย" มีส่วนแบ่งตลาด 9.8% ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวม 4.1 แสนล้านบาท หรือเติบโต 17.2% จากสิ้นปี 2562 โดยมีการเติบโตจากกองทุนหุ้นจีนที่เคยมีมูลค่าราว 2 พันล้านบาทในปี 2562 และเพิ่มขึ้นเป็น 3.1 หมื่นล้านบาทในปัจจุบัน ประกอบกับการเติบโตจากกองทุน Asia Pacific ex-Japan Equity รวมไปถึงกองทุนเพื่อความยั่งยืน ทำให้บลจ.กรุงไทยที่เคยมีมูลค่าทรัพย์สินที่อันดับ 6 ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 4 กองทุนที่มีเงินไหลเข้ามากที่สุดในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมาคือ KTAM China A Shares Equity A ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท
"บลจ.กรุงศรี" มีมูลค่าทรัพย์สินรวมเกือบ 4 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4% จากสิ้นปี 2562 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากกองทุนตราสารทุนเช่นกองทุนหุ้นจีน กองทุนหุ้นทั่วโลกเช่นเดียวกับบลจ.รายอื่น มีส่วนแบ่งตลาดที่ 9.4% เพิ่มขึ้นจากเดิมเล็กน้อยที่ 9.0% กองทุนที่มีเงินไหลเข้ามากที่สุดในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมาคือ Krungsri Smart Fixed Income ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท
"การเติบโตของบลจ.รายใหญ่ 5 อันดับแรกมีความคล้ายกันคือมีการเติบโตของมูลค่าการลงทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะตราสารทุน เช่น กองทุนหุ้นจีน หุ้นทั่วโลก และการเติบโตในลักษณะเดียวกันนี้เองทำให้ส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่หรือราว 75% ยังอยู่ในบลจ. 5 อันดับแรกเช่นเดิม"
"ชญานี" กล่าวว่า ขณะที่ บลจ.รายอื่นที่มีการเติบโตดี ได้แก่ "บลจ.ทิสโก้" มีมูลค่าทรัพย์สินสูงขึ้น 46.0% มาอยู่ที่ระดับ 7 หมื่นล้านบาท ทำให้ขยับขึ้นมาเป็นหนึ่งในบลจ.ขนาดใหญ่ที่สุด 10 อันดับแรก
นอกจากนี้ยังมีบลจ.ที่มีการเติบโตมากกว่า 100% โดยจะเป็นบลจ.ขนาดเล็กลงมาเช่น "บลจ.วรรณ" เติบโต 106.2% มูลค่าทรัพย์สินล่าสุด 7.1 หมื่นล้านบาท "บลจ.บางกอกแคปปิตอล" 318.6% มูลค่าทรัพย์สินล่าสุด 1.4 หมื่นล้านบาท และ "บลจ.เอ็กซ์สปริง" เติบโต 213% มูลค่าทรัพย์สิน 75.2 ล้านบาท
loserbigbang
Hero Member
กระทู้: 556
บันทึกการเข้า
Re: เปิด ‘5บลจ.’เติบโตสูงสุดใน ‘วิกฤติโควิด’รอบ1ปีครึ่ง
«
ตอบกลับ #1 เมื่อ:
สิงหาคม 22, 2021, 01:38:16 pm »
โฆเซ่ เอ็นริเก้ อดีตแบ็คซ้ายของลิเวอร์พูล แนะอดีตสโมสรว่าพวกเขาต้องการเพิ่มผู้เล่นใหม่ในตำแหน่งกองหน้าและกองกลาง ก่อนตลาดปิด
“สำหรับชุดแข่งปัจจุบันของลิเวอร์พูล ผมคิดว่าพวกเขายังคงต้องปรับปรุงบางอย่างเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้นก่อนที่ตลาดจะปิด โดยเฉพาะกองหน้าหรือกองหน้าเสริมที่เล่นได้ทุกตำแหน่ง ใน
Joker
กรณีที่พวกเขาหมุนทั้งสามเมื่อพวกเขายังไม่พร้อมที่จะเล่นด้วยกัน” เอนริเก้บอกกับ NetBet
“แน่นอนว่าการมีผู้เล่นที่มีสไตล์การเล่นอย่าง Diogo Jota จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อทีม แต่ในขณะเดียวกัน กองหน้าที่
Joker Game
ปิดหัวแม่มือเพียงคนเดียวก็มีความจำเป็นอย่างมากสำหรับพวกเขา โดยเฉพาะคนตัวสูงที่ทำคะแนนจากบอลในอากาศ อะไรแบบนั้น."
สมัครสมาชิก
https://joker-gaming.vip
เว็บอันดับหนึ่งของเมืองไทยโปรโมชั่นดีๆมากมาย
สตีฟ ว๊ายยย
Hero Member
กระทู้: 600
บันทึกการเข้า
Re: เปิด ‘5บลจ.’เติบโตสูงสุดใน ‘วิกฤติโควิด’รอบ1ปีครึ่ง
«
ตอบกลับ #2 เมื่อ:
พฤศจิกายน 29, 2021, 02:59:47 pm »
ทางเข้าwin88
เต่าเดือย
Mgwin88 ดาวน์โหลด
เป็นเต่าอีกประเภทหนึ่งที่นิยมเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงสำหรับคนที่นิยมเลี้ยงสัตว์เลื้อยคลานหรือสัตว์แปลกๆโดยในสมัยก่อน มีชื่อเรียกเฉพาะในวงการผู้ค้าสัตว์เลี้ยงซึ่งเป็นสัตว์ป่าว่า เต่าหกเมียนมาร์ แพงขายเพียงแต่ตัวละ 50-100 บาทแค่นั้น โดยจะเป็นเต่าที่โดนจับมาจากทางเมียนมาร์ ผ่านทางอำเภอแม่ใส่ ถ้าว่าก็เป็นเต่าที่เลี้ยงให้รอดยากมากมายในที่เลี้ยง ส่วนมากเต่าที่โดนจับมาขายนั้นมักอดอาหาร หรือเลือกรับประทานเป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งในตอนนี้ ได้มีการศึกษาและทำการค้นพบเต่าเดือยอีกพวกหนึ่ง ที่มีขนาดเล็กกว่าเต่าเดือยขนาดธรรมดา โดยเพศผู้มีขนาดโตสุดกำลังโดยประมาณ 22 เซนติเมตร น้ำหนักไม่ถึง 2 กิโลเมตร ตัวเมียมีปริมาณยาวราวๆ 25 เซนติเมตร น้ำหนักราว 2.5 กิโลเมตร เจอได้ในป่าตั้งแต่ชายแดนของเมืองไทยแถบจังหวัดตราดสม่ำเสมอไปตามแนวแนวเขาในประเทศเขมรภาคตะวันตก และก็มีเนื้อหาที่ไม่เหมือนกับเต่าเดือยธรรมดาพอเหมาะพอควร เป็นต้นว่า เพศผู้รวมทั้งตัวเมียมีชีวิตชีวาที่คล้ายคลึงกันและก็ลำตัวไล่เลี่ยกัน เพศผู้มีเกลล็ดสีแดงที่ขาข้างหลัง มีชีวิตชีวาที่แจ่มใสน้อยกว่า แล้วก็สามารถปรับพฤติกรรมได้ดิบได้ดีในที่เลี้ยง โดยไม่เลือกของกินที่จะรับประทานเท่าไรนัก ซึ่งยังมิได้มีการศึกษาเล่าเรียนด้านวิชาการ ก็เลยบางทีอาจเป็นได้ว่าเป็นเต่าจำพวกใหม่ หรือเป็นจำพวกย่อยของเต่าเดือย
พิมพ์
หน้า: [
1
]
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
ตลาดตอง9 ขายสินค้าออนไลน์ ลงโฆษณาฟรี
»
ตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์ โฆษณาสินค้าฟรี
»
โปรโมทเว็บ โปรโมทสินค้า อื่นๆ
(ผู้ดูแล:
admin
) »
เปิด ‘5บลจ.’เติบโตสูงสุดใน ‘วิกฤติโควิด’รอบ1ปีครึ่ง